ตอนที่ 2 เรื่องผีๆ ช่วงที่ 1
เส้นขอบฟ้า
https://www.dek-d.com/board/view/3131754/
ยามค่ำคืนของค่ายเขาชนไก่ ก็จะมีการยืนเวรยาม
ซึ่งคนที่ต้องทำหน้าที่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเหล่า รด.
ที่ต้องมาสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันนั้นเอง
แต่ครูฝึกจะเน้นอยู่เสมอว่าขณะที่ยืนเวรยาม อย่ามองไปที่เส้นขอบฟ้าโดยเด็ดขาด
(เส้นขอบฟ้าก็คือ เส้นที่ผืนดินกับผืนฟ้าตัดกัน ซึ่งจะพบเจอได้บ่อยในต่างจังหวัด)
สาเหตุที่กวดขันเรื่องนี้
เพราะอดีตมีนักเรียน รด.อยู่คนหนึ่งมีคิวออกมายืนเวร แต่ขณะนั้นเกิดปวดฉี่
และด้วยความที่ขี้เกียจเดินไปเข้าห้องน้ำ จึงเลือกไปปลดทุกข์เบาที่ใต้ต้นไม้
และขณะที่กำลังทำภารกิจอยู่นั้น รด.คนนี้ได้มองไปด้านหน้าซึ่งเป็นที่โล่ง
จนเขาได้พบเห็นเส้นขอบฟ้า!!
ระหว่างที่จ้องเส้นขอบฟ้าอยู่นั้น
เขาได้เห็นฝูงม้านับร้อย ธงรบ และข้าศึกกำลังโห่ร้องดังกึกก้อง
และวิ่งเข้ามาทางตัวเขาอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นเขาตกใจมาก จึงหันหลัง เพื่อวิ่งกลับไปยังที่รวมพลให้เร็วที่สุด
แต่สิ่งที่เขาได้เจอเมื่อหันหลังก็คือ.. มีนักรบร่างใหญ่ขี้ม้าสีดำ
กำลังง้างมีดยาวฟันมาที่ตัวของเขา จังหวะนั้น รด. คนดังกล่าวถึงกับหมดสติ
ก่อนครูฝึกจะมาเห็นสภาพที่นอนบิด ขยับตัวไม่ได้ จึงนำตัวส่งโรงพยาบาล
หลังการรักษาหมอให้เหตุผลว่า อาจจะมาจากอากาศหนาว จนทำให้เส้นต่างๆ
ในร่างกายทับกันจนเกิดอาการหมดสติ
ครูฝึกเรียกหา
เป็นเรื่องระหว่างการเดินทางไกลครับ เกิดขึ้นกับนักเรียน รด. หมู่หนึ่งที่จะต้องเดินทางไกลตอนกลางคืน ระหว่างทางที่เดินนั้นก็จะมีการเช็คยอดเรื่อยๆ ตลอดทาง เพื่อป้องกันการพลัดหลง แต่แล้วเมื่อเดินมาได้เกือบประมาณ 2 กิโล กลับพบว่าเพื่อนตั้งแต่คนที่ 6 ถึง 11 ได้หายไป ???
จากนั้นเพื่อนที่เหลืออยู่ต่างร้องตะโกนเรียกหา แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา หัวหน้าหมู่จึงตัดสินใจรีบเดินทางกลับ เพื่อออกไปที่รวมพลเพื่อแจ้งครูฝึก ด้านครูฝึกเมื่อทราบแล้วก็ออกตระเวนหากันอย่างหนัก โดยสั่งห้ามนักเรียน รด.ทุกคนห้ามออกจากที่รวมพลโดยเด็ดขาด
เวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงครูฝึกได้กลับมาพร้อมกับกลุ่ม รด.คนที่ 6 ถึง 11 ที่หายไป เพื่อนกลุ่มนี้หน้าตาตกใจ และเหวอมากๆ ก่อนจะเล่าให้เพื่อนๆ บางคนฟังว่า ระหว่างทางที่เดินทางไกลอยู่นั้น เพื่อนคนที่ 6 ได้เห็นครูฝึกโพกหัวด้วยผ้าสีแดง โบกมือเรียก จึงเดินไปหา ขณะที่เพื่อนคนที่ 7 ถึง 11 ก็เดินตามไปเช่นกัน แต่พอเดินไปถึงจุดที่ครูฝึกเรียก กลับไม่มีใคร และพอจะหันหลับไปทางเดิม ก็รู้ว่าตัวเองได้หลงทางซะแล้ว
เป็นเรื่องระหว่างการเดินทางไกลครับ เกิดขึ้นกับนักเรียน รด. หมู่หนึ่งที่จะต้องเดินทางไกลตอนกลางคืน ระหว่างทางที่เดินนั้นก็จะมีการเช็คยอดเรื่อยๆ ตลอดทาง เพื่อป้องกันการพลัดหลง แต่แล้วเมื่อเดินมาได้เกือบประมาณ 2 กิโล กลับพบว่าเพื่อนตั้งแต่คนที่ 6 ถึง 11 ได้หายไป ???
จากนั้นเพื่อนที่เหลืออยู่ต่างร้องตะโกนเรียกหา แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา หัวหน้าหมู่จึงตัดสินใจรีบเดินทางกลับ เพื่อออกไปที่รวมพลเพื่อแจ้งครูฝึก ด้านครูฝึกเมื่อทราบแล้วก็ออกตระเวนหากันอย่างหนัก โดยสั่งห้ามนักเรียน รด.ทุกคนห้ามออกจากที่รวมพลโดยเด็ดขาด
เวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงครูฝึกได้กลับมาพร้อมกับกลุ่ม รด.คนที่ 6 ถึง 11 ที่หายไป เพื่อนกลุ่มนี้หน้าตาตกใจ และเหวอมากๆ ก่อนจะเล่าให้เพื่อนๆ บางคนฟังว่า ระหว่างทางที่เดินทางไกลอยู่นั้น เพื่อนคนที่ 6 ได้เห็นครูฝึกโพกหัวด้วยผ้าสีแดง โบกมือเรียก จึงเดินไปหา ขณะที่เพื่อนคนที่ 7 ถึง 11 ก็เดินตามไปเช่นกัน แต่พอเดินไปถึงจุดที่ครูฝึกเรียก กลับไม่มีใคร และพอจะหันหลับไปทางเดิม ก็รู้ว่าตัวเองได้หลงทางซะแล้ว
เด็กจุก และ
ยายขายกล้วยแขก
เรื่องมีอยู่ว่า คืนวันที่ 3 ... นักศึกษาวิชาทหารทุกคนจะ ต้องปฏิบัติ ภารกิจลาดตระเวนยามค่ำคืน
เพื่อฝึกทักษะ ต่างๆ โดยครูฝึกจะจัดเหตุการณ์จำลอง ให้นักศึกษาได้ จดจำรายละเอียด
และนำรายงานต่างๆกลับมาบอกที่ฐาน บัญชาการให้ถูกต้องครบถ้วน ก่อนออกเดินลาดตระเวน ครูฝึกย้ำเป็นรอบที่ 108 กับพวกเราว่า “นักศึกษาวิชาทหารทุกคน
หากเจอเด็กมัดจุกกับยายแก่ๆมาขายกล้วยแขกข้างทาง อย่าทักเป็นอันขาด” ชั่วโมงนั้นผมคิดในใจ “แหงล่ะใครจะกล้าทัก กลางป่ากลางดง
เด็กกับคนแก่มาเดินขาย กล้วยแขกนี่มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติแล้วล่ะ”
โชคดีที่คืนนั้นการลาดตระเวนผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีใครถูกหวย
เจอเด็กจุกกับยายขายกล้วยแขก ทว่าคืนวันที่ 4 ก่อนการฝึกบนเขาจะ
สิ้นสุด เราเจอเหตุการณ์แปลกๆทั้งกองร้อย วันนั้นเราทั้งหมดต้องปฏิบัติภารกิจ
ฝึกการ ถอยในเวลากลางคืน ทุกคนจะต้องอยู่ประจำในหลุมบังเกอร์ของตัวเอง
ซึ่งบรรยากาศ โดยรอบค่อยๆมืดลงอย่างรวดเร็ว
เพราะยังเป็นช่วงเดือนมกราคมอยู่ ยิ่งมืดก็ยิ่งตื่นเต้น
แม้จะมีเพื่อนๆในหมวดเดียวกัน 5 คนรอบข้าง
แต่ก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้
ระหว่างรอผมแอบเห็นนักศึกษาวิชาทหารคนหนึ่ง
เดินออกจากหลุมหลบภัยไปใต้ต้นไม้ไม่ไกลจากที่เราอยู่ และทำการวางกับระเบิด
(หมายถึงการปลดทุกข์) ไม่นานหลังจากนั้น ครูฝึกส่งสัญญาณให้ถอย
ทุกคนก็รีบออกจากบริเวณนั้นทันที ส่วนคนที่กำลังวางกับ
ระเบิดก็รีบกุลีกุลจอวิ่งกลับเข้ากลุ่มอย่างเร็ว จนกระทั่งก่อนจะลงเขา ครูฝึกเดินตรวจเช็ค จำนวนนักศึกษาและปืน
นักศึกษาครบแต่ปืนหายไปหนึ่งกระบอก แน่นอนว่านักศึกษา
ผู้วางกับระเบิดลืมปืนทิ้งไว้ที่ใต้ต้นไม้ ครูฝึกเลยสั่งให้เขาไปเอาปืนโดยมีครูฝึกอีกคนเดินไป
ด้วย เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุปรากฏว่าต้นไม้และกองระเบิดที่วางไว้ยังอยู่แต่ปืนหาย!! หายไปไหน ? นั่นน่ะสิ ?
เขายืนยัน
ว่าวางปืนไว้ตรงนี้แน่ๆ แต่ปืนมันหายไปไหน ? การหายไปของปืน
1 กระบอกทำให้ครูฝึกวุ่นวาย กับการ ค้นหา
หนึ่งในครูฝึกสั่งให้เปิดไฟรถของทหารทุกคัน ที่อยู่ บริเวณนั้นและ
ให้ทุกคนเดินปูพรมหาปืน 1 กระบอก ระหว่างนั้นผม
กวาดตามองไปบริเวณทุ่งไกลๆ ซึ่งมืดมาก มองเห็นได้ลางๆ เพราะแสงจันทร์ เพราะไฟจากรถ
ไม่ได้ส่องไปทางนั้น ผมคิดว่าผมไม่ได้ตาฝาด ที่เห็นคนเดินอยู่ไกลๆในทุ่ง
ลางๆเป็นรูปร่างคนแก่และเด็กเดินอยู่ ผมก็นึกในใจว่าใช่แน่ๆ
สิ่งที่คนเล่าต่อๆกันมา ผมได้แต่ เงียบ
ไม่พูดอะไรรีบละสายตา มามองดูเส้นทางที่ค้นหาปืนเหมือนเดิม เวลาผ่านไปนานมาก หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ
สุดท้ายครูฝึกเลยจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งนักศึกษา
คนต้นเรื่องก็ทำด้วย และการค้นหาเริ่มขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้ปรากฏว่าเจอปืนวางพาดไว้ใต้ต้นไม้ต้นเดิม
!!
ผมไม่กล้าคิดเอง ว่าสิ่งที่ผมเห็น คืออะไร และ
มันเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เรามองไม่เห็นปืนกระบอก นั้นหรือไม่ คงได้เเต่เก็บไว้
และ บอกต่อๆถึงรุ่นน้อง ในการไปอยู่บนป่าเขา ให้ระวัง และ เคารพในสถานที่
ขอขอบคุณเรื่องเล่าจาก
http://siamedtaro.com/article/เรื่องเล่าที่ค่าย-รด.-ณ-‘เขาชนไก่’-/32/enhttps://www.dek-d.com/board/view/3131754/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น